Khaoyai@ Bangkok Thailand Guide 360 Virtual tours Attractions, Accommodation, Restaurants, Events

Untitled Document

Main >> Travel >> Khaoyai

ช่วงนี้ก็เข้าใกล้ต้นหนาวแล้ว เป็นช่วงที่เขาใหญ่น่าเที่ยวที่สุดช่วงหนึ่ง สำหรับชาวกรุงที่ต้องใช้เวลาชีวิตอย่างเร่งรีบ จัดว่าโชคดีที่มีธรรมชาติอย่างป่าเขาใหญ่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯให้ชื่นชม เพราะสามารถใช้รถเดินทางเพียง 3 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายได้โดยง่าย เมื่อไปถึงสถานที่ การชมเที่ยวเขาใหญ่นั้น หากมีรถยนต์ส่วนตัวจะช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ ก็สามารถใช้บริการรถที่ทางอุทยานฯจัดเตรียมไว้พาชมก็ได้ เพราะแหล่งสวยงามแต่ละแห่ง จุดชมวิวแต่ละจุดจะอยู่ห่างจากกันพอสมควร จะให้เดินด้วยเท้าคงจะเหมาะกับผู้ที่รักการผจญภัยและพอมีเวลาเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเดินทางด้วยวิธีใด สาระที่จะได้รับจากเขาใหญ่คงมีไม่แพ้กันอย่างแน่นอน เดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติ จากตึกรามบ้านช่องสู่ทุ่งหญ้าป่าใหญ่ ผู้คนหลากหลายหายหน้าหายตา พานพบแต่สัตว์ป่าใหญ่น้อย ทั้งช้าง กวาง เก้ง ชะนี แมลงและนกอีกนับร้อยๆชนิด ต่างใช้ชีวิตตามสัญชาตญาณของมัน บางครั้งก็จะเดินผ่านมนุษย์ที่เฝ้ามองอยู่อย่างเอ็นดูเพลินๆ เสียงคุ้นเคยเดิมๆ อย่างเสียงของเครื่องยนต์ยานพาหนะหลายพันคันดังสนั่นทั่วท้องถนน เสียงเคาะแป้นพิมพ์จากคีย์บอร์ด หรือเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ตลอดในเวลาออฟฟิต เสียงเหล่านี้กลายเป็นเสียงแปลกหน้าเมื่อถูกแทนที่ด้วยเสียงของสัตว์ป่า เสียงของธรรมชาติ อยู่เมืองเคยเห็นแต่น้ำที่ไหลผ่านมาจากท่อ ออกสู่ก๊อกน้ำตามอาคารบ้านเรือน เป็นน้ำปลายทางผ่านกระบวนการกรองเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเราได้ดื่มได้ใช้กัน มาถึง ณ ที่นี้ เราสามารถมองเห็นต้นน้ำที่ไหลผ่านเทือกเขา จากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ปรากฏให้เห็นเป็นน้ำตก ไหลแรงตามแต่ความชันของผานั้นๆ เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองอย่างธรรมชาติ มีความใสสะอาดดื่มกินได้ให้ชุ่มคอ ซึ่งมีอยู่หลายจุดที่น่าเดินทางไปสัมผัสและชื่นชม

ณ จุดแรกที่รถผ่าน (จากทางใต้ของอุทยานฯ) คือทางไปสู่น้ำตก’เหวนรก’ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด มีทั้งหมด 3 ชั้น รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร ลักษณะการไหลตกที่ 90 องศา จึงเป็นสายน้ำที่ไหลแรงมาก สังเกตได้จากสายน้ำและละอองน้ำจากเหวเบื้องล่างที่กระจายตัวออกเป็นวงกว้างระยะประมาณ 50 เมตรได้ ให้ภาพที่สวยงามและเข้าใจถึงพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้อย่างชัดเจน การเข้าสู่น้ำตกเหวนรกนี้จะต้องเดินเท้าเข้าไปด้วย เมื่อเข้าใกล้จุดชม ทางเดินจะมีความชันมาก เล่นเอาผู้เดินเหงื่อออกสุขภาพดีไปตามๆกัน ในระหว่างทางที่เดิน จะมีกลิ่นหอมหวานเย็นๆของมวลหมู่ไม้สายลมสายน้ำพัดโชยเข้ามา พลันเปลี่ยนความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และหยาดเหงื่อให้เป็นไปด้วยความคุ้มค่า ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดในจุดนี้ จุดต่อไปที่น่าแวะพักก็คือน้ำตก ‘ผากล้วยไม้’ เป็นน้ำตกขนาดกลาง สามารถลงเล่นน้ำ พักเหนื่อยพร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับการชมกล้วยไม้หวายแดงที่ขึ้นอยู่บริเวณนั้น อันเป็นสัญลักษณ์ของน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง น้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมและรู้จักกันของประชาชนโดยทั่วไปคือน้ำตก ‘เหวสุวัต’ เป็นสายน้ำที่ไหลจากผาสูงประมาณ 20 เมตร บริเวณด้านล่างของน้ำตกจะเป็นแอ่งน้ำและลำธาร สามารถลงเล่นน้ำ มองดูภูเขา ท้องฟ้า ฟังเสียงสายน้ำหรือนกร้องอย่างสบายอารมณ์ได้ เป็นอีกแห่งที่จะเก็บเกี่ยวความสุขแบบง่ายๆได้ดียิ่ง ออกจากแหล่งน้ำตกกันบ้าง ก็ไปนั่งตากลมเย็นๆต่อได้ที่หนองผักชี หรือมอสิงโตก็ดี ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่า รอบข้างจะเป็นทุ่งหญ้าหรือที่โล่ง เมื่อมองดูก็จะรู้สึกโล่งโปร่งใสไปกับธรรมชาติดี ความงามตามธรรมชาติต่อเบื้องหน้าตัวเราในขณะนี้ ไม่ว่าจะรูป รส กลิ่น เสียง หรือสัมผัส สามารถดึงเราหลุดเข้าไปในภวังค์ได้เสมอ เพราะมนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเช่นกัน การละจากสูงสุดคืนสู่สามัญชั่วคราวได้จึงไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นสำหรับปุถุชนอย่างเราๆแน่นอน เมื่อเราอ้าแขนรับกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การมาเที่ยวเขาใหญ่ครั้งนี้ ความทรงจำดีๆเหล่านั้นจึงเกิดได้และจะประทับใจเราตลอดไป