benjasiri
Untitled Document
Google
Monthly Newsletter
Subscribe newsletter

Untitled Document news thai
What's on?


Menu
 Places to Go
 
Home
website hit counterStats
Hotel Booking
Bangkok
Pattaya
Krabi
Chiang Mai
Koh Samui
Phuket
Koh Chang
Koh phangan
Hua Hin
Cha-am
Other
Bangkok Places
The Grand Palace
Wat Trimit
Wat Bukhalo
Siam Paragon
MBK
The Royal Barges
Marimekko – Fabrics, Fashion
Siam Ocean World Bangkok
Saphan Phut
Wat Sri Mahamariamman
Phyathai Palace
Jim Thompson
Untitled Document
Hotels & Resorts
Hilton Phuket Arcadia Resort & Spa
InterContinental
Bangkok
The Grand Hyatt
Erawan Bangkok
Sheraton Krabi Beach Resort
Sri Panwa
Pimalai Resort & Spa
Aleenta Resort & Spa
Phuket - Phangnga
Royal Orchid Sheraton
Nakamanda Resort
Old Bangkok Inn
Banyan Tree Bangkok
Four Seasons Hotel Bangkok
Untitled Document
Restaurants
Supatra River House
Petsaichon
Restaurant
Henry J.Bean's Bar and Grill
Acqua
Bangpoo Resort
Silom Village
Chatuchak Cafe
Madison
Le Vendome
Tsu-Nami
Spring
Untitled Document
Shopping
The Exhibition in Honor of His Majesty the King
Hua Hin Jazz Festival 2006
ICT EXPO 2006
Wat Arun
Festival 2006
Oliviers & Co
Fireworks in the 60th Anniversary Celebrations
Spas
Blue Lagoon Spa
Chi Spa
The Purple Spa
Inner Spa
Crystal Spa
Divana Spa
Sivara Spa, Amari Trang Beach Resort
Banyan Tree Spa, Phuket
Travel
วัดพระธาตุหนองบัว
จ.อุบลราชธานี
วัดพระเหลาเทพนิมิตร
พระมงคลมิ่งเมือง
ดงลำดวน สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.ศรีษะเกษ
วัดพระพุทธบาทยโสธร
ปราสาทสระกำแพงใหญ่
วัดมหาธาตุยโสธร
Sarapadnuek Cave,
Pak chong
Koh Samet
The Corral at Ayutthaya
Sanctuary of Truth
Khao Yai
Trang
JJ Market
Articles
Everywhere is Elephant
Visaka Puja Day
Thailand: the Culture
of Rice
Songkran Festival
Untitled Document
Provinces
Ubon Ratchathani
Phuket
Mae Hong Son
Lop Buri
Sukhothai
Trat
Surat Thani
At-Bangkok
In the News
Other Information
Art Galleries
Bangkok Theatres
Transportations
Banks
Embassies
 
Photo Exhibition
Link Exchange
 

 
 
Untitled Document
:: At-Bangkok ::
click on a button to get a Java Software
to view panoramic tours get Java
จังหวัดอุบลราชธานี

คำขวัญประจำจังหวัด
เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน
ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์

สัญลักษณ์:
- เป็นรูปดอกบัวตูมและดอกบัวบาน ชูช่อก้านใบเหนือ
หนองน้ำ

ความหมาย:
- ภาพหนองน้ำมีก้านใบและดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ ให้นึกถึง
ชาวเมืองหนองบัวลุ่มภู ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านทางใต้ ของนครเวียงจันทน์ ชาวเมืองนั้นได้อพยพหนีการตามฆ่าของ เจ้านครเวียงจันทน์ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเมืองไทย

อักษรย่อจังหวัด: อบ
จังหวัดอุบลราชธานี
สภาพภูมิศาสตร์
ความเป็นมา
การเดินทาง
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
  ทุ่งศรีเมือง
  วัดทุ่งศรีเมือง
  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี
  แก่งสะพือ
  อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
เทศกาล
  งานแห่เทียนพรรษา
  งานประเพณีมหาสงกรานต์
แก่งสะพือ
ร้านอาหาร
รูปจังหวัดอุบลราชธานี
สภาพภูมิศาสตร์
 

อุบลราชธานี เป็นจังหวัดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เป็นระยะทาง 629 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำมูลไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ ด้านทิศตะวันออกเป็นที่ราบสูงและภูเขา มีหน้าผาหินทรายบริเวณชายฝั่งแม่น้ำโขงอันเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและลาว

ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดอำนาจเจริญ
ทิศใต้ ติดต่อกับ ประเทศกัมพูชา ตามแนวเทือกเขาบรรทัด
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ประเทศลาว
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ จังหวัดยโสธรและศรีสะเกษ

จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ 15,517 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 18 อำเภอ และ 6 กิ่งอำเภอ

   
 
ประวัติความเป็นมา
 

ดินแดนแถบนี้ มีชนชาติ ข่า ส่วย อพยพมาจากกรุงศรีสัตนาคนหุตเข้ามาอาศัยอยู่ ตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้นในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงคิดจะรวบรวมผู้คนที่แตกกระจัดกระจายจากภัยสงครามให้มาอยู่เป็นกลุ่มก้อน ดังนั้นถ้าใครสามารถรวบรวมผู้คนได้มากและอยู่กันอย่างมั่นคงก็จะได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมือง ด้วยเหตุนี้ในปี พ.ศ. 2329 ท้าวคำผง ซึ่งได้รวบรวมผู้คนอพยพมาตั้งหลักแหล่งทำกินอยู่ ณ บริเวณห้วยแจระแม อันเป็นที่ราบริมแม่น้ำมูล และต่อมาภายหลังมีความชอบจากการนำกำลังเข้าช่วยกองทัพไทยตีเมืองนครจำปาศักดิ์ จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านแจระแมเป็นเมืองอุบลราชธานี และแต่งตั้งให้ท้าวคำผงเป็นพระปทุมวรราชสุริยวงศ์เจ้าเมือง ภายหลังได้ย้ายเมืองมาตั้งใหม่ที่ "ดงอู่ผึ้ง" อันเป็นที่ตั้งจังหวัดในปัจจุบัน โดยมีเมืองเทียบเท่าชั้นจัตวาขึ้นอยู่รวม 7 เมือง

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อนจัดการปกครองแบบเทศาภิบาล เมืองอุบลราชธานีถูกรวมอยู่ในบริเวณหัวเมืองลาวกาว ต่อมาในปี พ.ศ. 2442 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเมืองอุบลราชธานีเป็นที่ตั้งมณฑล และเปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2443 เป็นมณฑลอีสาน

  ในปี พ.ศ. 2468 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จึงลดฐานะมณฑลอุบลราชธานีลงเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของมณฑลนครราชสีมา จนกระทั่งยุบเลิกมณฑลในปี พ.ศ. 2476 จึงกลายเป็นจังหวัดอุบลราชธานีตั้งแต่นั้นมา
 
รูปภาพจาก Google
 
การเดินทาง
 

1. ทางรถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ( พหลโยธิน) ไปสระบุรี เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 2 ( มิตรภาพ) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 24 ( สายโชคชัย-เดชอุดม) ไปจนถึงอุบลราชธานี หรือใช้เส้น ทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 226 ผ่านบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ถึงอุบลราชธานี

ทางรถโดยสารประจำทาง มีทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 272-0295 ( รถธรรมดา) ที่อุบลราชธานี โทร. ( 045) 241831 และ โทร. 272-5299 ( รถปรับอากาศ)

2. ทางรถไฟ มีรถด่วน และรถเร็ว กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ทุกวัน และยังมีรถธรรมดาจากนครราชสีมา-อุบลราชธานี และสุรินทร์-อุบลราชธานี อีกด้วย รายละเอียดสอบถามได้ที่หน่วยบริการเดินทาง โทร. 223-7010, 223-7020

3.ทางเครื่องบิน บริษัทการบินไทย จำกัด มีเครื่องบินรับส่งผู้โดยสารและพัสดุภัณฑ์ ระหว่างกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทการบินไทย จำกัด ถนนหลานหลวง กรุงเทพฯ โทร. 280-0060, 628-2000 หรือที่อุบลราชธานี โทร. ( 045) 313340-4


แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
 

ทุ่งศรีเมือง
เป็นทุ่งกว้างกลางเมือง คล้ายสนามหลวงของกรุงเทพฯ เดิมเป็นที่ทำนาของเจ้าเมือง ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้งดการทำนาที่ทุ่งศรีเมือง เพื่อรักษาไว้ให้เป็นที่พักผ่อนของชาวเมือง และเป็นที่จัดเทศกาลงานบุญต่างๆ ทางทิศใต้ของทุ่งศรีเมืองเป็นที่ประดิษฐานของศาลหลักเมือง

วัดทุ่งศรีเมือง
ตั้งอยู่ที่ถนนหลวงในเขตเทศบาลเมือง มีพระอุโบสถสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมอีสานที่ได้รับอิทธิพลจากกรุงเทพฯ สร้างประมาณต้นสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่บ่งบอกถึงอารยธรรมและวัฒนธรรมของคนอุบลในสมัยโบราณเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้วนอกจากนี้ยังมีหอไตรกลางน้ำ สร้างด้วยไม้ มีลักษณะผสมระหว่างไทย พม่า และลาว ลักษณะอาคารเป็นแบบไทย เป็นเรือนฝาปะกน ขนาด 4 ห้อง เก็บตู้พระธรรมลงรักปิดทอง หลังคามีลักษณะเป็นศิลปะไทยผสมพม่า มีช่อฟ้าใบระกา แต่หลังคาซ้อนกันหลายชั้น ส่วนลวดลายแกะสลักบนหน้าบันทั้งสองด้าน เป็นลักษณะศิลปะแบบลาว เป็นสถาปัตยกรรมของอีสานที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุด

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี
ตั้งอยู่ที่ถนนเขื่อนธานีตัดกับถนนอุปราช เป็นอาคารปั้นหยาชั้นเดียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2461 เดิมใช้เป็นศาลากลางจังหวัด ต่อมาทางจังหวัดได้มอบอาคารหลังนี้ให้กรมศิลปากร เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี ภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวท้องถิ่น ได้แก่ สภาพภูมิศาสตร์ ประวัติการตั้งเมือง โบราณวัตถุซึ่งเป็นหลักฐานทางด้านศิลปโบราณคดี หัตถกรรมพื้นบ้าน การละเล่นพื้นเมือง และเครื่องใช้ของเจ้าเมืองอุบล เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. ราคาค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท

แก่งสะพือ
เป็นแก่งที่สวยงามในแม่น้ำมูล ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี ตามทางหลวงหมายเลข 217 ประมาณ 45 กิโลเมตร คำว่า “ สะพือ ” เพี้ยนมาจากคำว่า “ ซำฟืด ” หรือ “ ซำปึ้ด ” ซึ่งเป็นภาษาส่วยแปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือม แก่งสะพือเป็นแก่งที่มีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เมื่อกระแสน้ำไหลผ่านกระทบหิน แล้วเกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ช่วงที่เหมาะสำหรับเที่ยวชมแก่งสะพือคือช่วงหน้าแล้ง ราวเดือนมกราคม-พฤษภาคม เพราะน้ำจะลดเห็นแก่งหินชัดเจนสวยงาม ส่วนหน้าฝนน้ำจะท่วมมองไม่เห็นแก่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาชมแก่งนี้ด้วย 2 ครั้ง ริมฝั่งแม่น้ำมีศาลาพักร้อน และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ในวันหยุดมีประชาชนมาเที่ยวพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลตำบลพิบูลมังสาหารได้จัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและประเพณีอันดีงามด้วย

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เช่น ผาชัน น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง ถ้ำปาฏิหารย์ ภูนาทาม เป็นต้น อีกทั้งยังได้มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ที่บริเวณผาขาม ผาแต้ม ผาเจ็ก ผาเมย และถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรก ในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศลาวเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุด ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ป่าเขาทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีเนื้อที่ประมาณ 340 ตารางกิโลเมตร หรือ 212,500 ไร่


เทศกาล

งานแห่เทียนพรรษา
เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี จัดให้มีขึ้นทุกปีในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา สถานที่จัดคือบริเวณทุ่งศรีเมืองและศาลาจตุรมุข มีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก โดยขบวนแห่จากคุ้มวัดต่างๆ พร้อมนางฟ้าประจำต้นเทียนจะเคลื่อนขบวนจากหน้าวัดศรีอุบลรัตนารามไปตามถนนมาสิ้นสุดขบวนที่ทุ่งศรีเมือง ในตอนกลางคืนจะมีมหรสพและการแสดงสมโภชต้นเทียนและเห็นแสงไฟต้องลำเทียนงามอร่ามไปทั้งงาน

งานประเพณีมหาสงกรานต์แก่งสะพือ
ในเดือนเมษายนของทุกปี ทางเทศบาลพิบูลมังสาหาร ก็ได้กำหนดจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือขึ้นเป็นประจำ ซึ่งในงานนอกขากจะมีการประกวดธิดาสงกรานต์แล้ว ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าของภาคเอกชน มีการละเล่นกีฬาพื้นเมือง และการประกวดการเล่นดนตรีพื้นบ้านอีสานอีกด้วย


ร้านอาหาร

ภัตตาคาร 24/20 ถ.สรรพสิทธิ์ โทร. 242017, 242481

ยิ้มยิ้มโภชนา 172 ถ.ศรีณรงค์ โทร. 255251

หงษ์ฟ้า 302-4 ถ.ชยางกูร โทร. 241026

ทวีผล 36-7 ถ.พรหมราช โทร. 254397, 244112-3

เจียวกี่ 307-317 ถ.เขื่อนธานี โทร. 254017

เนวาด้า 201/6-8 ถ.ชยางกูร โทร. 242134

อินโดจีน 20/10 ถ.สรรพสิทธิ์ โทร. 254126

ระเบียงทอง ( โรงแรมรีเจนท์พาเลซ) ถ.ชยางกูร โทร. 255529

ศรีกมล ( โรงแรมศรีกมล) ถ.อุบลศักดิ์ โทร. 241136

ราชธานี ( โรงแรมราชธานี) ถ.เขื่อนธานี โทร. 244388

ปทุมมาคาเฟ่ , เพลิน ( โรแงรมปทุมรัตน์ ) ถ.ชยางกูร โทร. 242615, 241501-8

กรุงทองคาเฟ่ ( โรงแรมกรุงทอง) ถ.ศรีณรงค์ โทร. 241609

เฟิร์นฮัท ถ.ราชธานี (ซอยตรงข้ามวิทยาลัยครูอุบลฯ) โทร. 244300

สาคร ถ.ผาแดง (ข้างศาลจังหวัด) โทร. 254101

แพแม่มูล ถ.พรหมเทพ (ท่าน้ำตลาดใหญ่ ริมแม่น้ำมูล) โทร. 243148

ลาบลูกทุ่ง ถ.สุริยาตร์ (หลังวิทยาลัยพยาบาล) โทร. 244330

 
 
 
สถานที่พัก
โตเกียว 362 ถนนอุปราช โทร. 241739 จำนวน 62 ห้อง ราคา 120-260 บาท
กรุงทอง 152 ถนนศรีณรงค์ โทร. 254200, 241609 จำนวน 130 ห้อง ราคา 200-480 บาท
ดอลล่าร์ ถนนสุริยาตร์ โทร. 242310 จำนวน 45 ห้อง ราคา 220-300 บาท
ทอแสง 251 ถนนพโลชัย โทร. 245531-6 จองที่กรุงเทพฯ โทร. 2330891-2, 2331675 จำนวน 76 ห้อง ราคา 1,200-3,200 บาท

นิวนครหลวง 68 ถนนยุทธภัณฑ์ โทร. 254768-9 จำนวน 44 ห้อง ราคา 150-250 บาท

บดินทร์ 14 ถนนพโลชัย โทร. 241444 จำนวน 110 ห้อง ราคา 150-280 บาท
ปทุมทองการ์เด้น 961 ถนนชยางกูร โทร. 311617, 311305 จำนวน 52 ห้อง ราคา 350-450 บาท

ปทุมรัตน์ 337 ถนนชยางกูร โทร. 241501-11 จองที่กรุงเทพ โทร. 2546510 จำนวน 168 ห้อง ราคา 720-5,000 บาท

พีวีทาวเวอร์ ถนนสุรศักดิ์ โทร. 244703-4, 242951-60 จำนวน 100 ห้อง ราคา 300-1,500 บาท
ราชา 19 ถนนชยางกูร โทร. 255293 จำนวน 59 ห้อง ราคา 180-320 บาท
ราชธานี 297 ถนนเขื่อนธานี โทร. 244388-90 จำนวน 103 ห้อง ราคา 220-750 บาท
รีเจนท์ พาเลซ 265-271 ถนนชยางกูร โทร. 245046-7 จำนวน 116 ห้อง ราคา 540 บาท
เรืองรังษีแมนชั่นปาร์ค ถนนราชธานี โทร. 244744-7, 254294 จำนวน 50 ห้อง ราคา 600-1,500 บาท
ศรีกมล 26 ถนนอุบลศักดิ์ โทร. 243793, 241136 จำนวน 42 ห้อง ราคา 750-1,200 บาท
ศรีอีสาน 1 ถนนราชบุตร โทร. 252204 จำนวน 30 ห้อง ราคา 100-120 บาท
ศรีอีสาน 2 ถนนราชบุตร โทร. 241577,254544 จำนวน 34 ห้อง ราคา 100-200 บาท
สุริยาตร์ 302 ถนนสุริยาตร์ โทร. 241144 จำนวน 50 ห้อง ราคา 120-200 บาท
อุบลโฮเต็ล (9 ชั้น) 2 ถนนอุบลกิจ โทร. 241045-7 จำนวน 120 ห้อง ราคา 200-550 บาท
 
 
 


Back to Top

Copyright 2004 www.At-bangkok.com All Rights Reserved
30 Sukumwit 85 Bangjak Prakanong Bangkok 10260 Tel. 662-331-1610, 662-331-1618 _Fax. 662-331-1618
email: pr@at-bangkok.com