Wat Bukhalo (Bukhalo Temple)
Presumably founded in the time of Krung Sri Ayutthaya around year1757, this temple was established on Chao Phraya bank in Tambol Bukhalo, Bangkok. There is no evidence showing who was the founder; however, it was found that the place had faced flood problems several times and needed regular restorations.

Until the reign of King Rama IV of the present Chakri dynasty, Princess Ubon Wanna from Chiang Mai saw the much-decayed temple and called for the restoration. Then, this “wat” was given a new name “Wat Ubon Wannaram” in honor of Princess Ubol Wanna. However, the locals still call it “Wat Bukhalo” until now.

The most significant feature of this place is Mondop (derived from Sanskrit’s Mandapa, meaning square spired pavilion). It is established on the top floor of a high building, used as Dhammasala or the preaching hall of the temple.

Inside the ordination hall is housed one of the most beautiful buddha image in Thailand, “Luang Po Pae” (Father Pae).

Besides the beautiful view of Chao Phraya River from Mondop, you can also enjoy feeding several fish at “Wang Macha” (or Fish Palace) at the pier of Wat Bukhalo.

วัดบุคคโล
จากหลักฐานสันนิษฐานว่าวัดบุคคโล เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ.2300 ในบริเวณที่เป็นชุมชนคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่ ตำบลบุคคโล เมืองบางกอก ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างวัด แต่พบหลักฐานว่าวัดแห่งนี้ประสบกับปัญหาน้ำท่วมและทำให้รากฐานของอาคารสถานต่างๆมีปัญหา ต้องมีการซ่อมแซมอยู่บ่อยๆ

ครั้งเวลาล่วงเลยมาจนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เจ้าหญิงอุบลวรรณา ธิดาเจ้าหลวงแห่งเชียงใหม่ ประทับเรือผ่านมา ทอดพระเนตรเห็นสภาพเสนาสนะของวัดซึ่งทรุดโทรมอย่างมาก จึงโปรดให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และเปลี่ยนชื่อวัดตามพระนามของพระองค์ว่า “วัดอุบลวรรณาราม” แต่ชาวบ้านทั่วไปยังเรียกกันติดปากว่า “วัดบุคคโล”

สิ่งสำคัญที่สะดุดตาที่สุดของวัดแห่งนี้คือมณฑปที่สร้างอยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคารสูง ซึ่งใช้เป็นศาลาการเปรียญ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากสะพานกรุงเทพ ด้านในมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง
นอกจากนี้ในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระประธานซึ่งได้รับการยกย่องว่างามควรชมองค์หนึ่งของไทย ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อแพ” เพราะมีตำนานว่าพระพุทธรูปองค์นี้ลอยมากับแพ วนอยู่หน้าวัดหลายวัน ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันชักลากขึ้นมา
นอกจากการชมวิวอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาบนมณฑปแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการให้อาหารปลาที่ “วังมัจฉา” บริเวณท่าน้ำหน้าวัดอีกด้วย